วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หนังสือการ์ตูนจอมโจรอัจฉริยะ

         จอมโจรอัจฉริยะ (ญี่ปุ่น: まじっく快斗 Majikku Kaito ) (อังกฤษ: Magic Kaito หรือ Kaito KID) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแต่งโดย โกโช อาโอยาม่า จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โชงะกุกัง (ญี่ปุ่น) และ วิบูลย์กิจ (ไทย) เรื่องราวของ คุโรบะ ไคโตะ เด็กม.ปลาย สานต่อความฝันของพ่อด้วยการปลอมตัวเป็นจอมโจรคิด ผู้มีบทบาทในการรักษาความยุติธรรมและความสงบสุข แล้วคุณจะต้องหลงไหลไปกับฝีมือที่ยอดเยี่ยมของไคโตะ
ปัจจุบัน จอมโจรอัจฉริยะ ตีพิมพ์ออกมา 4 เล่ม โดยตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2531 2 เล่ม แล้วจึงตีพิมพ์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2537 อีก 1 เล่ม ต่อมาในปี พ.ศ. 2550จึงตีพิมพ์เล่มที่ 4 ส่วนในประเทศไทย เล่ม 4 ออกวางแผงเมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2551
จอมโจรคิด เป็นเรื่องราวของคุโรบะ ไคโตะ ตัวละครเอกของเรื่อง ไคโตะเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่มีฝีมือในการเล่นมายากล ซึ่งได้รับการฝึกสอนจากคุโรบะ โทอิจิ ผู้เป็นพ่อ ไคโตะมีเพื่อนสนิทในวัยเด็กคือ นาคาโมริ อาโอโกะ ต่อมาพ่อของไคโตะ ถูกฆ่าตาย วันหนึ่งไคโตะได้ไปค้นพบห้องลับของพ่อ โดยตอนนั้นเขาไปจับรูปของพ่อแล้วรูปก็พลิกกลับหลัง ทำให้เขาได้พบห้องลับ และเมื่อเข้าไปก็เจอหมวกทรงสูงสีขาว สูทขาว ผ้าคลุม แว่นตาขาเดียว จึงรู้ว่าพ่อของตนเป็นจอมโจรคิด และเมื่อรู้ว่าพ่อถูกฆ่าตาย ไคโตะจึงกลายเป็นจอมโจรคิด เพื่อออกติดตามค้นหาศัตรูที่ฆ่าพ่อของตนเอง (ก่อนที่ไคโตะจะรู้ความจริง จิอิ โคโนะสึเกะได้เป็นจอมโจรคิดชั่วคราว เพื่อตามหาคนที่ฆ่าโทอิจิ) ไคโตะ ถูกนาคาโมริ กินโซ พ่อของอาโอโกะ เป็นคู่ปรับในการออกตามล่าจอมโจรคิด ทำให้เกิดเรื่งราววุ่นวายเสมอ ๆ

ตัวละคร

คุโรบะ ไคโตะ (黒羽 快斗) หรือ จอมโจรคิด (怪盗キッド)
ตัวละครเอกของเรื่อง ฝีมือการเล่นมายากลของเขาจัดอยู่ในระดับมืออาชีพ ไคโตะมีพ่อชื่อ คุโรบะ โทอิจิ ซึ่งเป็นนักมายากล/จอมโจรคิด วันหนึ่งพ่อของเขาถูกฆ่าตาย 8 ปีต่อมา ไคโตะเลยมาเป็นจอมโจรคิด เพื่อหาคนที่ฆ่าพ่อตัวเอง ไคโตะเป็นศัตรูตัวฉกาจของ คุโด้ ชินอิจิ ตัวลำดับต้นๆในเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน หน้าตาของทั้งสองเหมือนกันมาก จนบางครั้ง รันยังคิดว่าจอมโจรคิด คือ ชินอิจิ
นาคาโมริ อาโอโกะ (中森 青子)
ลูกสาวคนเดียวของ สารวัตรนาคาโมริ กินโซ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของคุโรบะ ไคโตะ และยังเป็นคนรักของคุโรบะ ไคโตะหรือจอมโจรคิดอีกด้วย แต่เธอไม่รู้ว่าความจริง จอมโจรคิดกับคุโรบะ ไคโตะเป็นคน ๆ เดียวกัน หน้าตาก็จะคล้ายๆกันกับรัน เหมือนที่ คุโด้ ชินอิจิหน้าคล้ายๆกับคุโรบะ ไคโตะ
นาคาโมริ กินโซ (中森 銀三)
พ่อของนาคาโมริ อาโอโกะ ซึ่งมีหน้าที่ในการตามจับจอมโจรคิดแต่ก็ยังจับไม่ได้สักที สารวัตรนาคาโมริ กินโซ เคยเป็นเพื่อนของ คุโรบะ โทอิจิ แต่ไม่เคยรู้มาว่าโทอิจิ คือจอมโจรคิด (แต่ก็เคยสงสัยไคโตะอยู่เหมือนกัน เพราะเห็นหน้าตาของจอมโจรคิดเหมือนไคโตะแต่ไคโตะก็เอาตัวรอดได้)
ฮาคุบะ ซางุรุ (白馬探)
ลูกชายของท่านรองฯกองสืบสวน ฮาคุบะ ซางุรุเป็นนักสืบจากลอนดอนที่พยายามจะจับคิดให้ได้เพราะ "มันคือหนึ่งเดียวที่ทำให้สมองผมแทบคลุ้มคลั่ง" เขาชอบบอกเวลาเป็นนาฬิกานาทีและวินาทีเสมอ มีสัตว์เลี้ยงคู่ใจเป็นเหยี่ยวชื่อวัตสัน เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกับคุโรบะ ไคโตะและเขาก็เป็นอีกคนที่แน่ใจว่าไคโตะก็คือคิดนั่นเอง แต่ถึงยังงั้นก็ตามจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เพราะทุกครั้งที่หลักฐานมัดตัวแน่นหนาก็เกิดหลุดไปจนได้ด้วยความช่วยเหลือของ อาคาโกะ บางครั้งเขาก็ได้รับเชิญไปในเรื่องโคนันบางครั้งบางคราว (ในตอนที่ 219 รวมพลยอดนักสืบ คุโด้ ชินอิจิ ปะทะ จอมโจรคิด ในส่วนของคดีที่คฤหาสน์สนธยา และตอนที่ 479 3 วันกับฮัตโตริ เฮย์จิ)
โคอิสึมิ อาคาโกะ (小泉 紅子)
แม่มดใช้เวทมนตร์ได้ตามเนื้อเรื่องแล้ว ชายที่พบเธอจะหลงเสน่ห์กันหมดแต่ก็มีจอมโจรคิดนี่แหละที่ไม่สนใจเธอเลยและนั่นก็เป็นที่มาที่ทำให้เธอแน่ใจว่าคุโรบะ ไคโตะ ก็คือจอมโจรคิดและก็พยายามที่จะให้มาสยบอยู่แทบเท้าเธอเสมออาคาโกะก็เคยช่วยไคโตะในคราบของจอมโจรคิดนั่นก็น่าจะเป็นเพราะเธอเริ่มมีใจให้เขาซะแล้วมั้ง
คุโรบะ โทอิจิ (黒羽 盗一)
พ่อของไคโตะเป็นจอมโจรคิดคนแรก
ปู่จิอิ (จิอิ โคโนะสึเกะ)
เป็นผู้ช่วยของคุโรบะ โทอิจิ และตอนนี้ เขาก็ได้ช่วยเหลือคุโรบะ ไคโตะในการทำงาน(ตอนเป็นจอมโจรคิด)



     จอมโจรก็คือ ศิลปินผู้รังสรรค์การขโมยสิ่งที่ต้องการอย่างวิจิตรงดงาม นักสืบก็คือคนที่คอยเกาะตามดูผลงาน เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาๆ เท่านั้น
      ไว้พบกันใหม่นะ คุณยอดนักสืบ ก่อนเสียงระฆังแห่งศตวรรษนี้ จะกังวาล


ข้อมูลทั่วไปของจอมโจรคิด

การออกแบบตัวละคร

ในจอมโจรอัจฉริยะเล่ม 4 ได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ของโกโช อาโอยาม่า ผู้วาดจอมโจรคิด เขากล่าวว่าตัวละครที่วาดนี้เขาต้องการสื่อถึงภาพลักษณ์ของคนที่ "แว่บไปแว่บมา หาตัวจับยาก ห้าวหาญไม่มีใครเปรียบ หน้าตาหล่อเหลาเหมือนอาร์แซน ลูแปง และเป็นคนเจ้าเล่ห์" ตัวการ์ตูนนี้ให้ความสนุกในแบบของผู้ถูกล่าที่ต้องหนี  อย่างไรก็ตามเขายังกล่าวถึงการวาดชุดคลุมของไคโตะนั้นว่า "ลำบากเอาการ"

ประวัติ


คุโรบะ โทอิจิ จอมโจรคิดรุ่นที่ 1 และพ่อของคุโรบะ ไคโตะ จอมโจรคิดคนปัจจุบัน
คุโรบะ โทอิจิ ซึ่งเป็นจอมโจรคิดรุ่นพ่อปรากฏตัวในฐานะนักมายากลและอาชญากรเมื่อ 18 ปีก่อนที่จะเกิดเรื่องในมังงะเรื่องจอมโจรอัจฉริยะ โดยปรากฏตัวครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมด้วยผู้ติดตามชื่อจิอิ โคโนะสึเกะ โทอิจิมีชื่อเสียงมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นนักมายากลมือหนึ่งของโลก 10 ปีต่อมาหลังจากการปรากฏตัวครั้งแรก โทอิจิถูกสังหารระหว่างการแสดงโดยองค์กรองค์กรหนึ่งที่ต้องการชิง แพนโดร่า อัญมณีที่จะมีสีแดงและหลั่งน้ำตาในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ที่เชื่อว่าผู้ที่ได้ดึ่มน้ำตาจากแพนโดร่าจะเป็นอมตะ หลังจากนั้นเมื่อเริ่มเรื่องจอมโจรอัจฉริยะ จิอิ ซึ่งเป็นผู้ติดตามของโทอิจิได้ปลอมตัวเป็นจอมโจรคิดโดยหวังจะให้องค์กรที่สังหารโทอิจิปรากฏตัว โดยการปรากฏตัวในครั้งนี้เน้นการขโมยอัญมณีที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นหลัก ต่างจากครั้งอื่น ๆ ที่มีการขโมยอัญมณีนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย เป็นเวลาเดียวกับที่ คุโรบะ ไคโตะ ซึ่งเป็นบุตรของโทอิจิได้ค้นพบความจริงว่าพ่อของเขาเป็นจอมโจรคิดและถูกสังหารโดยองค์กรดังกล่าว ไคโตะจึงรับหน้าที่เป็นจอมโจรคิดเพื่อล่อให้องค์กรที่สังหารพ่อของเขาปรากฏตัวเพื่อสืบทอดหน้าที่ต่อจากจิอิ และเพื่อป้องกันไม่ให้องค์กรชิงอัญมณีแพนโดร่าไปด้วย
จอมโจรคิดไม่ว่าในรุ่นพ่อหรือรุ่นลูก ต่างก็ปรากฏตัวในยอดนักสืบจิ๋วโคนันเช่นกัน ทั้งในร่างบุคคลธรรมดาหรือจอมโจรคิด โดยคุโรบะ โทอิจิ เคยปรากฏตัวครั้งหนึ่งกับยูกิโกะและไคโตะในฉากรำลึกถึงอดีตในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ส่วนคุโรบะ ไคโตะ ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน "โคนัน VS จอมโจรคิด" และต่อมาก็ได้กลายเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องนั้น รวมถึงตัวละครเสริมผู้ขัดขวางจอมโจรคิด เช่น สารวัตรนากาโมริ กินโซ ฮาคุบะ ซางุรุ ก็ได้กลายเป็นตัวละครในเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกันตัวละครจากยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็เคยปะทะกับจอมโจรคิดมาแล้ว เช่น ในคดีแบล็กสตาร์ในจอมโจรอัจฉริยะ คุโด้ ชินอิจิ เคยปะทะกับคุโรบะ ไคโตะมาแล้ว และเชื่อกันว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหตุที่ทำให้จอมโจรคิดและโคนันทราบตัวจริงซึ่งกันและกัน 

ที่มาของชื่อ

แม้ว่าจอมโจรคิดจะมีฉายามากมาย เช่น ลูแปงแห่งเฮเซ นักมายากลใต้แสงจันทร์ เป็นต้น แต่ชื่อเรียกที่เป็นทางการตามที่ทั้ง ตำรวจสากล FBI และ CIA ตั้งไว้เป็นชื่อรหัส (Code Name) ที่เรียกว่า 1412 เดิมข้อมูลนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับแต่ก็รั่วไหลออกมา อย่างไรก็ดีชื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นชื่อที่เกิดจากการตั้งขึ้นของคุโด้ ยูซากุ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับโทอิจิ ตอนที่ยูซากุเป็นผู้ล่าและโทอิจิเป็นจอมโจรคิด และสนใจเรื่องจอมโจร 1412 ที่สามารถปั่นหัวตำรวจได้ทั่วโลก ครั้งหนึ่งยูซากุหยิบหนังสือพิมพ์ที่มีเรื่องจอมโจรคิดมาอ่านดู แต่นักข่าวเขียนเลข 1412 เป็นหวัดๆ ทำให้เขาอ่านแบบเล่นคำ ปรากฏว่าสามารถอ่านได้เป็นตัวอักษร KID ยูซากุจึงตั้งชื่อของจอมโจรคนนี้ว่า "คิด"

ข้อมูลจำเพาะ

ในคดี "ของขวัญจากอาคาโกะ" (จอมโจรอัจฉริยะ เล่ม 3) ฮาคุบะ ซางุรุ ได้เปิดเผยข้อมูลจำเพาะที่เกิดจากการเก็บรวบรวมได้ว่าจอมโจรคิดสูง 174 เซนติเมตร หนัก 58 กิโลกรัม อายุ 15-17 ปี หมู่เลือด B เชื้อสายญี่ปุ่น ผมดำ ตาซ้ายขวา 2.0 ระดับ ไอคิว 400 เล่นกีฬาเก่งโดยเฉพาะสกีแต่ไม่ถนัดสเก็ตน้ำแข็ง เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปรียบเทียบพบว่าตรงกับคุโรบะ ไคโตะ ทำให้ฮาคุบะกล่าวว่าจอมโจรคิดกับไคโตะเป็นบุคคลเดียวกัน แม้ตัวไคโตะจะปฏิเสธว่าไม่ใช่คิดก็ตาม นอกจากนี้ในเนื้อเรื่องพบว่าคิดชอบไอศกรีมช็อกโกแลตแต่กลัวปลา

ความสามารถและอุปกรณ์พิเศษ

ความสามารถหลักของจอมโจรคิดไม่ว่าจะเป็นรุ่นพ่อหรือลูกคือการที่คิดสามารถปลอมตัวเป็นคนที่ไม่รู้จักและรู้จักได้เนียนมาก แม้กระทั่งเสียงก็สามารถปลอมได้โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องแปลงเสียง ในยอดนักสืบจิ๋วโคนันมีการกล่าวว่า ยูกิโกะซึ่งเป็นแม่ของชินอิจิได้ฝากตัวกับโทอิจิ ซึ่งครั้งนั้นทำให้ยูกิโกะรู้จักกับ ชารอน วินยาร์ด และทำให้เกิดเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างขึ้น ด้วยความได้เปรียบนี้ทำให้คิดสามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งของอัญมณีก่อนที่จะโจรกรรมได้โดยง่าย หรือในบางครั้งก็ทำการโจรกรรมทั้งที่ปลอมตัวอยู่ก็มีให้เห็น
อย่างไรก็ดี คิดก็ยังใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยในการโจรกรรมด้วย เช่นใช้นกพิราบที่ติดกับดักฟังเสียงเพื่อช่วยในการดักฟังข้อมูลจากระยะไกล โดยใช้แว่นตาขาเดียว ใช้แฮงไกลเดอร์ในการหลบหนี ใช้ปืนที่ยิงออกมาเป็นรูปไพ่เพื่อป้องกันตัว โดยไม่ใช้ปืนจริงเป็นอันขาด และใช้ผู้ช่วยในบางกรณี ดังจะสังเกตได้จากในอะนิเมะเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 356 ซึ่งโคนันกล่าวว่าคิดมีผู้ช่วยแสดงกลเดินบนอากาศ และต่อมาก็ได้รับการยืนยันเมื่อปรากฏว่าคิดได้จับเอาพวกของตนที่แฝงตัวเป็นนักข่าวหลบหนีไปด้วยกันในคดีเล่ม 61 แต่ถึงจะใช้อุปกรณ์ดีเพียงใดก็ตาม ก็ปรากฏในเนื้อเรื่องว่าคิดได้รับบาดเจ็บบ้างเช่นกันไม่ว่าจะเป็นจากผู้ขัดขวางเช่นโคนัน หรือบุคคลที่สามที่ไม่พอใจ เป็นต้น
นอกจากความสามารถในการโจรกรรม คิดยังมีความสามารถในการสืบสวนเช่นกัน ดังจะเห็นได้ในมูฟวี่ตอน บทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ ที่คิดไปช่วยโคนันและเฮย์จิสึบสวนอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วจึงไปปิดบัญชีกับนายมิยามะซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนตัวการขโมยรถขนเงินที่คิดบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์ ซึ่งผู้ที่ขโมยนั้นก็คือรุ่นน้องที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยทางทะเลโยโกะฮะมะ ที่เดียวกับตัวประธานมิยามะนั่นเอง

ลักษณะการโจรกรรม

ก่อนทำการโจรกรรม จอมโจรคิดจะส่งสาส์นเตือนถึงเหยื่อหรือตำรวจก่อน โดยสาส์นมีรูปแบบเป็นข้อความที่ต้องไขปริศนาอีกที รวมถึงมีรูปหน้าของจอมโจรคิด ซึ่งจอมโจรคิดจะวาดใหม่ทุกครั้งที่โจรกรรมเมื่อส่งสาส์นเตือนและตรวจสอบสถานที่โจรกรรมในบางครั้งเสร็จแล้ว จึงทำการโจรกรรมตามวิธีที่เขียนไว้ในสาส์นเตือน เช่น ทำการปลอมตัวเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือตัวเหยื่อเพื่อตบตาตำรวจ และนำของหนีไป ทำให้เกิดความสับสนระหว่างของจริงและของปลอม แล้วชิงของจริงหนีไป เป็นต้น โดยในระหว่างการโจรกรรมคิดจะไม่ฆ่าคน ไม่ใช่ปืนจริง แต่จะขโมยของไปเพียงอย่างเดียว และไม่ลักพาตัวคนเป็นอันขาด โดยปกติแล้วในระหว่างการหลบหนีหรือการโจรกรรมนั้น คิดจะสวมชุดสูทสีขาวที่ทำจากผ้าไหม มีผ้าคลุมข้างหลังและหมวกสีขาว เนคไทสีแดง เสื้อเชื้ตตัวในสีน้ำเงิน และแว่นตาขาเดียว แต่ในบางครั้งเขาก็มิได้สวมชุดนี้อันเนื่องจากการปลอมตัวและเหตุผลอื่น ๆ เช่น เพื่อมิให้ถูกสังเกตได้โดยง่ายหากมีการใช้อุบายขโมยหรือหลบหนี เป็นต้น


ตามรายงานของตำรวจก่อนที่คิดจะลงมือโจรกรรมไข่อิมพีเรียล อีสเตอร์ในมูฟวี่ตอนที่ 3 ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ จอมโจรคิดก่อคดีรวมทั้งสิ้น 134 คดี โดย 15 คดีในจำนวนคดีทั้งหมดเป็นคดีที่เกิดขึ้น ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมัน และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 12 ประเทศ รวมอัญมณีที่ขโมยไปได้ 152 รายการ คิดเป็นมูลค่า 38,725 ล้านเยน